ภมูิแพ้กำเริบจำกอากาศที่ปลี่ยนแปลง (CLIMATE CHANGE)


ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 + อากาศโลกแปรปรวน + มลพิษ PM2.5 ก็มา
ทุกท่านคงสังเกตอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งการไอ-จามช่วงนี้ยิ่งท าให้ความเครียด
ดังนั้นการคุม
ภูมิแพ้ให้อยู่หมัดและมีความรู้ความเข้าใจกับอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเองจะช่วยได้ครับ
บทความนี้จึงเล่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทุกท่านเข้าใจ
1. ผลโดยตรง
-อากาศที่เปลี่ยนแปลงเร็วทำให้โรคหืดกำเริบ เพราะ ทางเดินหายใจมีความไวมากขึ้น
– งานวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรคหืดมีการกำเริบและป่วยนอน รพ. สูงขึ้นหลังเกิดอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
2. ผลทางอ้อม
– ภูมิอากาศเปลี่ยนทำให้สภาพแวดล้อมของผู้ป่วยแย่ลง เช่น มลพิษทางอากาศ เกสรหญ้าเพิ่มจำนวน สปอร์เชื้อราเพิ่มจำนวนความหลากหลายทางชีวภาพลดลง ซึ่งผลกระทบนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค
2.1 มลพิษทางอากาศ (Air pollution)
– การที่อุณหภูมิความชื้นกระแสลมเปลี่ยนแปลงทำให้มลพิษเพิ่มขึ้นจากหลายสาเหตุ
– Ground-level ozone เพิ่มขึ้น จาก photochemical smog
– PM2.5 และก๊าซมลพิษเพิ่มขึ้นจากการที่มนุษย์อยู่ในบ้านนานขึ้น เปิดเครื่องปรับอากาศไฟป่าหรือพายุฝุ่นในบางพื้นที่
– การสัมผัสมลพิษระยะสั้น (PM2.5, Ozone) กระตุ้นอาการก าเริบของโรคภูมิแพ้จมูก โรคหืด
– การสัมผัสมลพิษระยะยาว (PM, black carbon, NO2) สัมพันธ์กับการเกิดโรคหืดในเด็ก และโรคหืดชนิดที่เริ่มเกิดในผู้ใหญ่(adult-onset asthma)
2.2 เกสรพืชมีฤทธิ์ก่อภมู ิแพแ้รงขนึ้ในคนที่แพ้เกสรอยู่เดิม
– ภาวะโลกร้อนน้ำท่วม ฝนตก กระแสลม พายุฝนฟ้าคะนอง มีผลต่อการปล่อยเกสร
– ผลิตเกสรเร็วขึ้นและผลิตได้นานขึ้น
– มลพิษเสรมิฤทธิ์ความเป็นสารก่อภมูิแพ้
– การกระจายตัวของพืชไปไกลขึ้นหลายร้อยกิโลเมตร บางสปีชีส์ก็เกิดขึ้นในพื้นที่ใหม่และรบกวนระบบนิเวศเดิมทำให้มนุษย์เจอสารก่อภูมิแพ้ใหม่เพิ่มจากที่เดิมไม่เคยเจอ
2.3 สปอร์เชื้อราเพิ่มจำนวนมากขึ้น
– เสี่ยงต่อการเกิดโรคหืดกำเริบรุนแรง
2.4 พายุฝนฟ้าคะนอง (thunderstorm-asthma)
– เวลามีผลฟ้าคะนองเกิดขึ้น เกสรพืช และสปอร์เชื้อรา จะมีปริมาณสูงขึ้นมาทันที เนื่องจากอนุภาคของสปอร์แตกตัว และมีลมพัดให้กระจายไปไกลขึ้น
2.5 ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง (biodiversity)
– ระบบภูมิคุ้มกันปรับตัวได้ลดลง สัมพันธ์กับโรคภูมิแพ้
โดยสรุป climate change มีผลต่อเราทั้งแบบเฉียบพลัน (อาการก าเริบ) และผลระยะยาว (จากไม่เป็นก็กลายเป็นโรคภูมิแพ้) การแก้ไขต้องแก้ที่สาเหตุ มนุษยชาติจะต้องร่วมมือกันเป็นปึกแผ่นให้ได้
บทความจาก ผศ.นพ.มงคล สมพรรัตนพันธ์