🌧🔥 ความสัมพันธ์ของอากาศที่เปลี่ยนแปลงต่อผู้ป่วยโรคหืดในเรื่อง Aerobiology(Climate changed and Asthma : Aerobiology)🫁🌿🪴
โดย นพ.จิรวัฒน์ เชี่ยวเฉลิมศรี ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
.
ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ได้แก่โรคภูมิแพ้และโรคหอบหืด เป็นผลมาจากปฏิสัมพันธ์ทางสิ่งแวดล้อมและภูมิคุ้มกัน มีหลักฐานทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้นที่เชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับโรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้ ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อการเริ่มต้น ระยะเวลา และความรุนแรงของฤดูกาลละอองเกสรดอกไม้ และอัตราการโจมตีของโรคหอบหืดจะนานขึ้นในช่วงฤดูละอองเกสรดอกไม้โดยเฉพาะในฤดูร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ของพืชและเชื้อรา และเปลี่ยนแปลงระยะเวลา การผลิต และการกระจายของสารก่อภูมิแพ้ เนื่องจากภาวะโลกร้อน ผู้คนจึงต้องเผชิญกับสารก่อภูมิแพ้มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเวลานาน เมื่อประกอบกับการสัมผัสกับสารมลพิษที่เสริมฤทธิ์กันซึ่งอาจทำให้โรคภูมิแพ้และโรคหอบหืดแย่ลง ปัญหาจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต
.
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อพืชผัก นี่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของวงจรการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ และการผลิตละอองเกสรที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ นอกจากนี้วัชพืชยังเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วอีกด้วย สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การมีสารก่อภูมิแพ้ได้มากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค เพราะบางสถานที่จะโดนรังสีอัลตราไวโอเลต ปริมาณน้ำฝนยังสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ
.
โดยสรุปสาเหตุที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อโรคหอบหืด มีดังนี้

  1. พืชเจริญเติบโตเร็วมากขึ้น
  2. พืชแต่ละต้นผลิตละอองเกสรมากขึ้น
  3. ปริมาณโปรตีนก่อภูมิแพ้ในละอองเกสรเพิ่มขึ้น
  4. การเติบโตของพืชเร็วขึ้นส่งผลให้ เกสรดอกไม้ถูกผลิตเร็วขึ้น และความยาวของฤดูเกสรก็เพิ่มขึ้น
    .
    เมื่อ 4 สิ่งนี้เกิดขึ้น จะทำให้มีผู้ป่วยโรคหอบหืดเพิ่มมากขึ้น ผู้คนที่เป็นโรคหอบหืดกำลังประสบกับการโจมตีมากขึ้นเรื่อย ๆ อุบัติการณ์ของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ที่เพิ่มขึ้นในผู้ป่วยที่แพ้ละอองลอยต่างๆ ทำให้การทำงานของปอดลดลง

Climatechange #Aerobiology #Asthma #Thaiasthmacouncil