การรักษาโรคหืดโดยไม่ใช้ยา โดย อ.นพ.สันติ สิลัยรัตน์อายุรแพทย์โรคทางเดินหายใจ และเวชบำบัดวิกฤติทางเดินหายใจคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล โภชนาการกับโรคหืด ปัจจุบันเป็นที่ทราบชัดเจนแล้วว่าอาหารและโภชนาการมีบทบาทอย่างมากทั้งในแง่การเป็นปัจจัยของการเกิดและการดำเนินโรคของโรคหืด และสร้างผลกระทบที่สำคัญได้นับตั้งแต่แรกคลอดไปจนถึงเมื่อเติบโตเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะได้แก่ กระบวนการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันในเนื้อเยื่อทางเดินหายใจในเด็กแรกเกิด การเจริญพัฒนาของระบบภูมิคุ้มกันในทารกซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังคลอดและมากขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงช่วง 1-2 ปีัแรกของชีวิต จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยที่สำคัญคือ ปริมาณสารอาหารที่จำเป็นและเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารอาหารที่สำคัญได้แก่ กลูตามีน (glutamine) วิตามิน เอ วิตามิน ดี กรดไขมันจำเป็น (essential fatty acids) ได้แก่ linoleic acid และ alpha-linolenic acid ร่วมกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อปริมาณและความหลากหลายของจุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ ตั้งแต่ในระยะคลอดจนถึงหลังคลอดจนถึงช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันได้รับการพัฒนาเต็มที่ ซึ่งการได้รับนมจากมารดาต่อเนื่องกันตั้งแต่แรกคลอดไปจนถึงช่วงที่มีการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันของทารกถึงระดับสูงสุดนั้น นอกจากจะทำให้ทารกได้รับสารอาหารชนิดต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อกระบวนการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันของทารกที่ครบถ้วนแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการคัดเลือกและจำกัดชนิดและปริมาณของจุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ ที่จะเข้าไปอยู่อาศัยและเพิ่มจำนวนขึ้นบนเยื่อบุทางเดินอาหารและทางเดินหายใจของทารกอีกด้วย เนื่องจากในน้ำนมมีสารอิมมูโนโกลบุลิน เอ...
News
Omalizumab in Asthma
Omalizumab in Asthmaโดย รศ.พญ.นฤชา จิรกาลวสานอายุรแพทย์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตและอายุรศาสตร์การนอนหลับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย Omalizumab เป็น anti-immunoglobulin E (anti-IgE) ในโรคหืดที่มีการแพ้ (allergic asthma) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ให้ใช้ในการรักษาโรคหืดรุนแรงในผู้ป่วยอายุ 6 ปีขึ้นไป กลไกการออกฤทธิ์ของ omalizumabOmalizumab เป็น anti-IgE monoclonal Antibody ที่ทำงานโดยจับกับ อิมมูโนโกลบูลิน อี (IgE) ในกระแสเลือดและยับยั้งไม่ให้จับกับตัวรับบน mast cells และ basophils ทำให้ลดการกระตุ้นการหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น histamine, leukotrienes และ cytokines ต่างๆ ส่งผลให้ลดการอักเสบของหลอดลม ลดอาการของโรคหืด และช่วยป้องกันการเกิดอาการกำเริบ ข้อบ่งชี้ในผู้ป่วยโรคหืดรุนแรงในผู้ป่วยอายุ 6 ปีขึ้นไป จะต้องประกอบไปด้วยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ ค่า total...
Biologic in Severe Asthma
Biologic in Severe Asthmaโดย ศ.ดร.พญ.อรพรรณ โพชนุกูลนายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย โรคหืดที่มีอาการรุนแรง (Severe asthma) หมายถึง โรคหืดที่ยังมีอาการกำเริบถึงแม้ว่าจะได้รับยา Medium to high dose ICS/LABA แล้ว จนต้องได้รับยา Systemic steroids ซึ่งต้องแยกจากโรคหืดที่รักษายาก (Difficult to treat asthma) ตรงที่ยังมีโรคพบร่วมที่ไม่ได้รับการรักษาเช่น ไซนัสอักเสบเรื้อรัง นอนกรนจนมีทางเดินหายใจอุดกั้นช่วงนอนหลับ (Obstructive sleep apnea) ภาวะอ้วนหรือมีปัญหาในการใช้ยา หากไม่มีปัญหาเหล่านี้ให้วินิจฉัยว่าเป็น severe asthma ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 10 ในผู้ใหญ่และร้อยละ 2.5 ในเด็ก ซึ่งคนไข้กลุ่มนี้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากหอบกำเริบสูง ต้องได้รับยาสเตียอรยด์ชนิดรับประทาน ได้ยาขนาดสูง และมีสมรรถภาพปอดที่แย่ลง ดังนั้น จึงควรมีการประเมิน (Assess) ปรับ (Adjust) ทบทวน...
Bronchial Thermoplasty
การจี้กล้ามเนื้อเรียบหลอดลมด้วยความร้อน (Bronchial Thermoplasty)โดย อ.นพ.อภิชาติ สุวรรณจันทร์รัศมี อายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลสระบุรี ผู้ป่วยโรคหืดรุนแรง (severe asthma) จะมีการหนาตัวขึ้นของกล้ามเนื้อเรียบและผนังหลอดลม(1) (airway smooth muscle remodeling) และมีีการกระตุ้้นการทำงานของต่่อมผลิิตเมืือกให้้ทำงานมากขึ้น(2) (mucous hypersecretion) ทำให้กล้ามเนื้อเรียบและผนังหลอดลมมีการตอบสนองต่่อยาขยายหลอดลมลดลง จนเกิดการอุดกลั้นแบบถาวร (fixed airflow obstruction) ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ไม่ตอบสนองต่อการรักษา และมีอาการหืดกำเริบบ่อยครั้ง การจี้กล้ามเนื้อเรียบหลอดลมด้วยความร้อน (bronchial thermoplasty) เป็น non-pharmacologic endoscopic procedure ที่ช่วยลดความหนาของ airway smooth muscle โดยทำการส่องกล้องหลอดลมแล้วใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายบ่วงตะกร้อเพื่อส่งคลื่นวิทยุไปกระตุ้นเยื่อบุผนังหลอดลมและกล้ามเนื้อเรียบหลอดลมให้เกิดความร้อนที่ 65 องศาเซลเซียส(3,4,5) โดยจะแบ่งการทำหัตถการออกเป็น 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3 สัปดาห์ แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้เซลล์เยื่อบุผนังหลอดลมลดการหลั่งสารที่เรียกว่า...
Type-2 low asthma
หลักการรักษา Type-2 low asthma ในผู้ใหญ่ด้วยยา อ.พญ.ณัฐวรรณ สงวนวงษ์ Type-2 low asthma เป็นกลุ่ม phenotype หนึ่งของโรคหืด ลักษณะที่พบได้ เช่น non-allergic, non-eosinophilic inflammation (โดยพบ neutrophilic airway inflammation ได้บ่อย) โดยการตอบสนองต่อ steroid จะไม่ดีเมื่อเทียบกับกลุ่ม type-2 high asthmaการรักษาด้วยยา(1-5) #Corticosteroids ยาสูดพ่นคอร์ติโคสเตียรอยด์ (ICS) เป็นยาหลักในการควบคุมอาการหืด โดยช่วยลดการอักเสบของหลอดลม แต่อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการรักษาน้อยกว่ากลุ่ม type-2 high asthma #Macrolides การให้ low-dose azithromycin (3 ครั้งต่อสัปดาห์) ระยะยาว ในโรคหืดที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วย medium หรือ high-dose ICS-LABA...