สิ่งกระตุ้นให้โรคหืดกำเริบมีหลายอย่างได้แก่ การเป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ การได้รับสารก่อภูมิแพ้ การติดเชื้อบางชนิด การออกกำลังกาย วันนี้เราจะมาเรียนรู้การพิชิตโรคหืดโดยการหลีกเลี่ยง/รักษา ปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญได้แก่โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ผู้ป่วยโรคหืดในปัจจุบันเป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้มากกว่าร้อยละ 60-70 และมีอาการแพ้ไรฝุ่น ขนสัตว์ สิ่งกระตุ้นอื่นๆ ได้แก่ ละอองเกสรดอกไม้ หญ้า และเชื้อรา วิธีพิชิต พยายามรักษาอาการของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โดยใช้ยาพ่นจมูก กินยาอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่มีอาการกำเริบได้งาย นอกจากนี้ควรให้ลูกมีโอกาสได้รับสิ่งกระตุ้นน้อยที่สุด เช่น ถ้าคิดว่าเขาน่าจะแพ้ขนแมวที่เคยเลี้ยงไว้ในบ้าน ก็ต้องถอดพรมออกไป ทำความสะอาดพื้น ทำความสะอาดผนังห้องและทาสีใหม่ ทำความสะอาดท่อแอร์ และเปลี่ยนแผ่นกรองของเครื่องฟอกอากาศบ่อยๆ ไม่ควรให้ลูกเล่นตุ๊กตาที่มีขน แต่ถ้าอาการแพ้ของลูกไม่อาจควบคุมได้ด้วยการกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ก็คงต้องใช้วิธีฉีดวัคซีนภูมิแพ้การออกกำลังกายการวิ่งหรือออกกำลังกายบางชนิด อาจกระตุ้นให้เกิดอาการหืดกำเริบ โดยเฉพาะในเด็กได้กว่าร้อยละ 80 เพราะการออกแรงมากๆ ทำให้ต้องหายใจเร็วขึ้น ซึ่งมักจะเป็นการหายใจทางปาก ทำให้อากาศที่เย็นกว่าปกติพรวดเข้าปอดเป็นจำนวนมาก (ตามปกติจมูกจะทำให้อากาศอุ่นและชื้นขึ้น) วิธีพิชิต พ่นยาหรือกินขยายหลอดลมก่อนออกกำลังกายอย่างน้อย 15-30 นาที ถึงอย่างไรเด็กๆ ที่มีอาการหอบหืดจากการออกกำลังกายก็ยังจะต้องออกกำลังกายอยู่ดี เพราะผลวิจัยชี้ชัดว่าเด็กที่น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการมากกว่าถึงร้อยละ 50 นอกจากนี้ไม่ควรออกกำลังกายที่หนักเกินไปและควรปรับตัวด้วยการทำร่างกายให้อบอุ่นก่อนออกกำลังกายการติดเชื้อโรคส่วนใหญ่ที่กระตุ้นให้เกิดอาการในเด็กคือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่พบบ่อยที่สุดคือไข้หวัด รองลงไปคือไข้หวัดใหญ่ และการติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจ (RSV) วิธีพิชิต พาลูกไปฉีดวัคซีน...
News
ป้องกันโรคหืดในลูกน้อยอย่างไรดี
ปัจจุบันโรคภูมิแพ้นั้นพบว่า มีอุบัติการณ์เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงโรคหืด พ่อแม่ หลายคนอาจจะเกิดคำถามในใจว่า หากไม่ต้องการให้ลูกน้อยของตนที่เกิดมาต้องมาเป็นโรคหืดนั้นจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไรบ้าง ซึ่งจุดมุ่งหมายหลักๆ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายของลูกน้อยสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้ หรือถ้าเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้แล้ว ก็เพื่อป้องกันและลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอาการของโรคหืดในอนาคต ซึ่งการป้องกันดังกล่าวควรเริ่มต้นปฏิบัติตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์เลยดีที่สุด อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า พันธุกรรมมีบทบาทต่อการเกิดโรคหืดค่อนข้างมาก พ่อหรือแม่ที่มีประวัติเป็นโรคหืดจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหืดในลูกอย่างมากเช่นกัน ซึ่งปัจจัยในแง่ของพันธุกรรมนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนวิธีการป้องกันอื่นๆ ที่พบว่าช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหืดได้มีเพียง 2 วิธีหลักๆ เท่านั้น คือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสควันบุหรี่ ในมารดาตั้งแต่ช่วงเริ่มตั้งครรภ์ จนถึงหลังคลอดการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย จนถึงอายุ 4-6 เดือนหลีกเลี่ยงการให้อาหารเสริมอื่นๆ ในช่วงอายุ 4-6 เดือนแรกหลังคลอดวิธีการอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ยังไม่พบหลักฐานข้อมูลชัดเจนว่าสามารถป้องกันการเกิดโรคหืดได้ เช่น การแนะนำให้มารดาขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ เช่น นมวัว ไข่ หรือถั่วลิสง เป็นต้น ในทางกลับกันกลับพบว่า นอกจากไม่ช่วยป้องกันแล้วอาจทำมารดาขาดสารอาหารโดยไม่จำเป็น หรือแม้แต่การให้มารดาขณะตั้งครรภ์หรือทารกหลังคลอดกินจุลินทรีย์เชื้อเป็น (Probiotics) เพื่อไปเปลี่ยนแปลงระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้เกิดโรคภูมิแพ้นั้นก็ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าช่วยป้องกันการเกิดโรคหืดได้ในกรณีที่พ่อแม่มีปัจจัยเสี่ยงสูง เช่น เป็นโรคหืดอยู่แล้ว และแม่ไม่สามารถให้นมบุตรได้ หรือน้ำนมแม่ไม่เพียงพอ อาจพิจารณาใช้นมผสมสูตรพิเศษชนิดที่แพ้น้อย (Hypoallergenic formula)...
การให้ความรู้ทั่วไปแก่ผู้ป่วยโรคหืด
โรคหืดเป็นโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ที่เกิดจากปฏิกิริยาทางภูมิแพ้ของร่างกายต่อสารก่อโรค โรคหืดพบได้ประมาณร้อยละ 7 ของประชากรในประเทศไทย ผู้ป่วยจะมีประวัติอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ หายใจเสียงหวีด หอบเหนื่อย แน่นหน้าอกและอาการไอ อาการจะแย่ลงช่วงกลางคืนหรือรุ่งเช้า โดยอาการผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงได้หลายรูปแบบ ในด้านเวลาการดำเนินโรคและระดับความรุนแรง ร่วมกับการตรวจพบการแปรปรวนของการอุดกั้นหลอดลมในช่วงขาออก และอาการอาจกำเริบหรือกลับเป็นซ้ำๆได้ โดยปัจจัยหรือสิ่งกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดการกำเริบของโรคได้แก่สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ สัตว์เลี้ยง(สุนัข แมว) เกสรหญ้า สารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ เช่น น้ำหอม กลิ่น สี น้ำยาหรือสารเคมี ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจส่วนบน การหัวเราะ และอารมณ์เครียด เป็นต้น โรคหืดมีลักษณะหลอดลมไวเกินต่อสารภูมิแพ้ หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ทำให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรังของหลอดลมอย่างต่อเนื่องแม้ผู้ป่วยไม่มีอาการ หรืออาจมีผลตรวจสมรรถภาพปอดที่ปกติได้ และสามารถกลับมาควบคุมอาการให้ปกติได้ด้วยการรักษาที่เหมาะสม อาการของโรคหืดและการอุดกั้นของหลอดลมอาจหายเองได้หรือหายภายหลังให้ยารักษา และไม่มีอาการอีกเป็นเวลานานหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน ผู้ป่วยบางรายมีอาการหืดกำเริบเฉิยบพลันรุนแรง อาจทำให้เสียชีวิตได้และมีผลกระทบต่อผู้ป่วยและสังคมการวินิจฉัยโรคหืด ประกอบด้วย 1. อาการที่เข้าได้กับโรคหืด 2. การตรวจสมรรถภาพปอดพบการแปรปรวนของการอุดกั้นหลอดลมในช่วงขาออก (variable...
World Asthma Day 2022
โดย ศ.ดร.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย
10 เทคนิค เอาชนะโรคหืด
โดย ศ.ดร.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย